เจาะลึก Bid Offer Spread! ตัววัดสภาพคล่องที่เทรดเดอร์ห้ามมองข้าม!

เคยมั้ยที่เปิดมาแล้วเจอ Bid Offer กระโดด ๆ วางไม่ครบช่อง ใครที่ได้เจอคงบอกเลยว่าเทรดสินทรัพย์แบบนี้ได้ยากมาก! นี่คือ Bid Offer Spread ที่เป็นมากกว่าราคากระโดด เพราะสเปรดตัวนี้ส่งผลต่อกำไรในการเทรดอย่างแน่นอน! นอกจากนี้การเข้าใจ Bid Offer Spread ยังช่วยให้คุณเข้าใจตลาดและวางกลยุทธืที่ได้เปรียบเพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไรได้อย่างเป็นมืออาชีพ พร้อมเจาะลึก Bid Offer Spread แล้วก็ตามมาได้เลย!

ชวนดู Bid Offer Spread คืออะไร ทำไมเทรดเดอร์ต้องรู้!

Bid Offer Spread หรือ สเปรดราคาซื้อ-ขาย คือ ส่วนต่างระหว่างราคาเสนอซื้อ (Bid) และราคาเสนอขาย (Offer) ซึ่งแสดงถึงส่วนต่างราคาที่เทรดเดอร์ยอมจ่ายเพื่อให้เกิดการซื้อขายขึ้นทันที

Bid Offer Spread คำนวณได้จาก

Bid Offer Spread = ราคา Offer – ราคา Bid

Bid Offer Spread (%) = (ราคา Offer – ราคา Bid) / ราคา Offer

การคิด Bid Offer Spread = ราคา Offer – ราคา Bid

ตัวอย่างเช่น ถ้า หุ้น ABC มีราคา Bid เป็น 10.10 บาท และ Offer เป็น 10.50 บาท จะได้ Bid Offer Spread เท่ากับ 0.40 บาท ซึ่งหมายความว่าถ้าเทรดเดอร์ซื้อและขายหุ้นตัวนี้ในทันทีจะขาดทุน 0.40 บาท ผิดกับหุ้น XYZ ที่ปัจจุบันราคา Bid 10.20 บาท และ ราคา Offer ที่ 10.30 บาท จะมี Bid Offer Spread ที่ 0.10 บาท หมายความว่าถ้าเทรดเดอร์ซื้อขายหุ้นตัวนี้ทันทีจะขาดทุน 0.10 บาท คิดเป็นต้นทุนที่ต่ำกว่าหุ้น ABC ที่ Bid Offer Spread กว้างกว่า

A close-up of a price list Description automatically generated

สินทรัพย์ที่มี Bid Offer Spread แคบ แสดงถึงต้นทุนต่ำซื้อขายง่าย

Bid Offer Spread กว้าง-แคบ บอกอะไรได้บ้าง?

เทรดเดอร์มากประสบการณ์มักสังเกตว่า Bid Offer Spread ไม่ได้เป็นค่าคงที่ตลอด ค่าสเปรดที่เปลี่ยนแปลงไปมักสะท้อนภาพตลาดในหลาย ๆ ด้านและช่วยให้คุณวางแผนการเทรดได้แม่นยำขึ้น เช่น

  • สภาพคล่อง สินทรัพย์ตัวไหนมีคนซื้อขายกันมาก ๆ เช่น หุ้นขนาดใหญ่ จะยิ่งมีการแข่งกันเสนอราคา Bid / Offer ทำให้ Bid Offer Spread แคบและซื้อขายง่ายได้ราคาดี
  • ความผันผวน เวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูง เทรดเดอร์จะเริ่มต่อราคา Bid / Offer ทำให้ Bid Offer Spread เริ่มถ่างกว้างขึ้น ทำให้การซื้อขายเกิดขึ้นได้ยากขึ้นหรือซื้อขายได้ราคาที่ไม่เหมาะ
  • ประเภทของสินทรัพย์ สินทรัพย์แต่ละชนิดก็มี Spread ไม่เท่ากัน เช่น SET50 Futures มีสเปรดขั้นต่ำ 0.1 (0.01%), Gold Futures มีสเปรดขั้นต่ำ 10 (0.02%), USD Futures มีสเปรดขั้นต่ำ 0.01 (0.03%)

เคล็ดลับการใช้ Bid Offer Spread เพิ่มโอกาสทำกำไรอย่างมืออาชีพ!

เทรดเดอร์ที่อยากเพิ่มโอกาสทำกำไรต้องบริหารต้นทุนการเทรดให้ดี และสามารถใช้ Bid Offer Spread ในการวางแผนการเทรดที่ได้เปรียบ เช่น

  • เลือกสินทรัพย์ที่มีสเปรดแคบ: สินทรัพย์ที่นิยมซื้อขายจะมีสภาพคล่องสูงและ Bid Offer Spread แคบ เช่น การเทรด SET50 Futures มักเป็นซีรีส์สิ้นไตรมาสที่ใกล้ที่สุด หรือ การเทรดค่าเงินก็มักเป็นคู่เงินที่ได้รับความนิยมเช่น USDJPY EURUSD
  • การเลือกเวลาเทรด: ช่วงเปิดตลาดมักเป็นช่วงที่มีการซื้อขายมากและมีสภาพคล่องสูง ทำให้สินทรัพย์มี Bid Offer Spread แคบ และเป็นจังหวะที่ดีในการเทรดระยะสั้น
  • ใช้คำสั่งแบบ Limit Order: เพราะ Bid Offer Spread เปลี่ยนแปลงได้ตลอด เทรดเดอร์ควรส่งคำสั่งด้วย Limit Order เช่น ถ้าต้องการซื้อที่ราคาตลาด ไม่ควรส่งคำสั่ง Market Price เพราะอาจทำให้ราคาคลาดเคลื่อน แต่ควรส่งเป็นราคา Limit Order ที่ราคา Offer เพื่อความปลอดภัย

A screen with numbers and symbols Description automatically generated

สินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงจะมี Bid Offer spread ต่ำ เช่น S50Z24

สรุปง่าย ๆ Bid Offer Spread คือตัวบอกสภาพคล่องและยังเป็นต้นทุนแฝงในการเทรดด้วย

ให้การเทรดมีโอกาสชนะสูงขึ้น เทรดเดอร์มืออาชีพจึงมองหาการเทรดบนสินทรัพย์ที่มีสเปรดแคบ ยิ่งสเปรดแคบ ต้นทุนยิ่งต่ำ ทำกำไรได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าสเปรดกว้าง ต้นทุนก็สูง เทรดยากและควรหลีกเลี่ยง เทรดเดอร์มากประสบการณ์จึงชอบใช้จังหวะในช่วงเวลาที่สเปรดแคบและเลือกใช้คำสั่ง Limit Order เพื่อลดต้นทุน เพิ่มโอกาสทำกำไร และทำให้การเทรดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *